อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งดำเนินคดี นายจ้าง ปัดรับผิดชอบค่ารักษาแรงงานต่างชาติ อ้างเป็นแรงงานผิดกฎหมาย

อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งดำเนินคดี นายจ้าง ปัดรับผิดชอบค่ารักษาแรงงานต่างชาติ อ้างเป็นแรงงานผิดกฎหมาย

 

 

นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 กรมสวัสดิการและคุ้มครองเเรงงาน สำนักงานประกันสังคม และ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 กรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว ถึงนายจ้างชาวไทยที่จ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังแรงงานต่างชาติได้รับบาดเจ็บจากการถูกของมีคมทะลุชายโครงซ้ายใกล้หัวใจ ทะลุกระบังลม สุดท้ายถูกนายจ้างปัดความรับผิดชอบ ทิ้งภาระค่ารักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โดยอ้างว่าค่ารักษาไม่เกี่ยวข้องกับตน เพราะเเรงงานต่างชาติคนดังกล่าวเป็นแรงงานผิดกฎหมายเดินทางเข้ามาประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มทำงานกับตนเอง อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเเรงงานต่างชาติสัญชาติเมียนมาที่บาดเจ็บ เเละภรรยาทราบว่าได้ทำงานกับนายจ้างรายดังกล่าวเเละได้รับค่าจ้างมาแล้วประมาณ 1 เดือน

ซึ่งการกระทำของนายจ้างรายดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 9 ห้ามผู้ใดรับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 เเละที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีนายจ้างรายดังกล่าว ณ สน.ทุ่งสองห้อง ต่อไป

“กรมการจัดหางานขอย้ำเตือนว่า นายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ในส่วนคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมทั้งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งหากพบการกระทำความผิดกรมการจัดหางานจำเป็นต้องดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น” อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าว

Related posts